ป้ายกำกับ: ข่าวที่น่าสนใจ

หนีไปพักร้อนจะดีกว่า

หนีไปพักร้อนจะดีกว่า 

หนีไปพักร้อนจะดีกว่า จากปัญหาที่เวลานี้ ทีม “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดดูเหมือนว่าจะตั้งตัวไม่ติด หลังจากที่มีผลงานตกต่ำ สามวันดีสี่วันไข้ ภายใต้กุนซือที่เป็นอดีตลูกหม้อของสโมสร นามว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ขนาดว่าแฟนบอลของแมนยูเองยังต้องร้องยี้

หรือมีแฟนบอลบางคนได้กล่าวว่า หากโซลชารักทีมจริงๆ ควรจะแสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งกุนซือของทีมเสียดีกว่า และถึงแม้ว่าแมนยูจะผ่านเข้ารอบยูโรป้าลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ แต่ก็ไม่ทำให้อารมณ์เกรี้ยวกราดของแฟนบอลลดน้อยลงแต่อย่างใด

ทำให้เกิดกระแสข่าวลือที่ว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่ากุนซือมากความสามารถชาวสเปน จะเข้ามาคุมทีมแห่งถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดนี้ แต่ล่าสุดกันเป๊ป กล่าวว่า เขาจะไม่มีทางคุมทีมแมนยู หรือรีล มาดริดเด็ดขาด เนื่องจากเขาได้เคยคุมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้และบาร์เซโลนามาก่อนหน้านั้นแล้ว

หากเขาได้รับข้อเสนอจากทั้งสองทีมจริงสู้เขา 

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2013 ปีนั้นเขาว่างงานและมีข่าวเหมือนกันว่า เขาอาจจะมาคุมทีมแมนยูในช่วงที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันลาออกไปด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายเรื่องดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้น เพราะแมนยูหันไปทาบทาม เดวิด มอยส์ อดีตกุนซือเอฟเวอร์ตันเข้าคุมทีม

ทั้งนี้ เขาคุมทีมสโมสรต่างๆ เต็มที่ก็ 3-4 ฤดูกาลเท่านั้น ทั้งกับบาร์เซโลนาที่คุมมา 4 ปี,บาเยิร์น 3 ปี และแมนซิตี้ ฤดูกาลนี้เป็นซีซั่นที่ 4 ของเขาแล้ว และมีทีท่าว่าฤดูกาลนี้ “เรือใบสีฟ้า”ที่เป๊ปคุมทีมมีโอกาสชวดแชมป์พรีเมียร์ลีกค่อนข้างสูง เพรามีแต้มตามหลังลิเวอร์พูล 14 แต้ม 

เป๊ป กวาร์ดิโอล่าสมัยเป็นนักเตะเขาเป็นนักเตะเยาวชนจากแค้มป์ ลามาเซีย (แค้มป์เก็บตัวของบาร์เซโลนา) และสุดท้ายเขาเกือบจะเล่นให้สโมสรเดียวอยู่แล้ว แต่ช่วงปลายอาชีพเขาได้ย้ายมาเล่นให้เบรสชา,โรม่า,อัล อาห์ลี โดฮา และ โดราดอสในลีกเม็กซิโก 

ต่อมาเขาเป็นกุนซือของทีมยักษ์แห่งคาตาลัน พาทีมกวาดแชมป์เป็นว่าเล่น แข่งกับรีล มาดริดที่คุมทีมโดยโชเซ่ มูรินโญ่ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส และต่อมาปี 2013 เขาได้ย้ายไปคุมทีมบาเยิร์น มิวนิคกวาดสามแชมป์ในซีซั่นดียว คือ บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาลและยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 

ปี 2016 เขาย้ายมาคุมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ให้ กวาดแชมป์ลีกเช่นกัน เมื่อปี 2017/18 ที่พาทีมเก็บได้ 100 แต้มและ 2018/19 ที่พาทีมเก็บ 98 แต้ม

เขาจะถึงจุดอิ่มตัวหรือไม่ ไม่รู้ แต่คาดว่าคนอย่างเป๊ป สามารถเป็นกุนซือได้ทุกสโมสรในโลกนี้แน่นอน

 

สนับสนุนโดย ทดลองเล่นบาคาร่าฟรี

ยี่ห้อรถมอเตอร์ไซค์ที่นำมาทำวิบาก

ยี่ห้อรถมอเตอร์ไซค์ที่นำมาทำวิบาก

ยี่ห้อรถมอเตอร์ไซค์ที่นำมาทำวิบาก สำหรับคนชอบขี่สองล้อ ห้อตะบึงสุดแรงเกิดแล้ว รถมอเตอร์ไซค์แบบสองล้อที่มีซีซีเยอะๆที่สามารถจัดให้ได้ทั้งความเร็วที่เหนือใครกับความทนทานต่อสภาพพื้นดินสักคันอย่างแน่นอน หากว่าเรามีความพร้อมทางด้านการเงินล่ะก็ ลองดูรถมอเตอร์ครอสรับพรีเมี่ยมที่เราขี่มาแนะนำให้ไปเลือกกัน มาดูกันว่าใครจะชอบคันไหนกันบ้าง

เริ่มจากของแพง

 

บีเอ็มดับบลิว

เราไปเริ่มกันที่ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว ถ้าหากเป็นรถยนต์หลายคนเชื่อมืออยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเจ้าสองล้ออาจจะเกิดเครื่องหมายคำถามว่าได้เหรอ บอกได้เลยว่าของเค้าก็เยี่ยมเหมือนกัน หากเป็นรถมอเตอร์ครอสของปี 2017ต้องเป็นรุ่น F 700 Gs มอเตอร์ครอสสาย Enduro สมรรถนะเบื้องต้นเป็น เครื่องยนต์ 2 สูบ แรงม้า 7,300 รอบต่อนาที แรงบิด 77 นิวตัน จุดเด่นเป็นเรื่องของน้ำหนักเบา แต่ความถึกทนนี่ไว้ใจได้เลยลุยได้เต็มที่ ราคาเปิดมาเกือบๆห้าแสน

เคทีเอ็ม

คันที่สอง หากเราไม่ได้เป็นคนที่เล่นมอเตอร์ไซค์ในวงการนี้อาจจะงงว่ายี่ห้ออะไร นั่นคือ เคทีเอ็ม กับรุ่น KTM 1090 Adventure ปี 2017 มอเตอร์ครอสลูกผสมกับบิ๊กไบค์ มาพร้อมขุมพลังกว่า 125 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ เครื่องยนต์แบบวี 2 สูบ จังหวะ v75 DOHC 4 วาล์วต่อสูบ ราคามาแรงทีเดียวอีก 100 บาทจะหนึ่งล้านบาท อาจทำให้เราคิดหนักสักหน่อยเลย แต่เชื่อว่าคุ้มค่าราคานี้

ฮอนด้า

มาถึงเจ้าตลาดสองล้ออีกแบรนด์หนึ่งอย่าง ฮอนด้า ที่มอเตอร์ไซค์แบบอื่นยี่ห้อนี่กินเรียบจริงๆ อย่างเช่น ฮอนด้าเวฟ ซีรีย์ต่างๆเป็นต้น แต่การมาเล่นรุ่นใหญ่บอกเลยว่าตลาดนี้ไม่ง่าย แต่ฮอนด้าเองก็มีทีเด็ดเหมือนกัน มอเตอร์ครอสรุ่นล่าสุดเป็น Honda CRF 250L ปี 2016 รถมอเตอร์ครอสแบบวิบาก เครื่องยนต์ 250 ซีซี กับจุดเด่นที่ระบบหัวฉีด PGM-FI เครื่องหมายการค้าของ ฮอนด้าเค้า ด้านหน้าใช้ดิสก์เบรค(แบบลูกสูบคู่) ด้านหลังเป็นดิสก์เบรคแบบลูกสูบเดี่ยว ราคาไม่แรงอย่างที่คิด เพียงแค่หนึ่งแสนกว่าบาทเท่านั้นเอง ใครอยากเล่นราคาไม่แพง รุ่นนี้น่าสนใจ

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับรถมอเตอร์ครอสที่หยิบมาแนะนำกันในวันนี้ จริงๆแล้วแต่ละยี่ห้อก็ยังมีรุ่นย่อยแตกต่างกันออกไปอีก ใครที่ชอบแบบไหนก็เลือกติดตามกันได้ ขอให้โชคดีมีมอเตอร์ครอสกันทุกคนนะครับ

ประวัติของ VAR

    ประวัติของ VAR  คืออะไร 

     ประวัติของ VAR หลายคนสังสัยว่ามันคืออะไรกันแน่และมาเกี่ยวข้องกับฟุตบอลได้ยังไง ทำไมฟีฟ่าถึงยอมรับในการใช้มัน ซึ่งจริงๆแล้ว เทคโนโลยีนี้มีมานานแล้ว แต่เพิ่งนำมาใช้เพื่อช่วยผู้ตัดสินในการตัดสินใจและทำให้เกมส์ฟุตบอลสนุกยิ่งขึ้นและกำลังได้รับความนิยมในหลายสาขา ในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักมันกัน

     VAR ย่อมาจาก (Video Assistant Referee)

     คือการนำภาพชช้ามาให้ผู้ตัดสินดูเพื่อประกอบการตัดสินเกมส์ในช่วงเวลาสำคัญโดยจะมีทีมงานคอยรายงานผ่านชุดหูฟังเพื่อสื่อสารกับผู้ตัดสิน เช่น จังหวะล้ำหน้า ลูกบอลเข้าประตูหรือไม่  จังหวะฟาล์วในกรอบเขตโทษ หรือการเล่นตุกติกนอกเกมส์ โดยผู้ตัดสินจะหยุดเวลาช่วงสั้นๆเพื่อวิ่งไปดูจอมอนิเตอร์ที่ข้างสนามเพื่อการตัดสินใจ

      โดยมีการเริ่มใช้ครั้งแรกเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 ที่ Major League สหรัฐอเมริกา โดย ฟีฟ่าลงมติกันเริ่มเอาใช้ในรายการ ฟุตบอลโลกปี 2018 เพื่อทำให้การแข่งขันมีความยุติธรรมและพัฒนามากยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันการเกิดความผิดพลาดของผู้ตัดสินเองด้วย ในช่วงแรกมีหลายฝ่ายทักท้วงว่าจะทำให้เกมส์ฟุตบอลหมดความสนุกและทำให้เกิดความล้าช้ายืดเยื้อในเวลาแข่งขัน 

     ซึ่งในเกมส์ฟุตบอลสมัยก่อนเสน่ห์ของฟุตบอลกรรมการเองเป็นคนตัดสินร่วมกับผู้ช่วยตัดสินอีกสองคน แต่ก็เกิดความผิดพลาดขึ้นมากมายจนในหลายครั้งเหมือนมีการล้มบอลเกิดขึ้นจนบางทีก็มีการตรวจสอบกันอยู่เรื่อยๆ เทคโนโลยี VAR จึงจำเป็นต้องเข้ามามีบทบาทมากขึ้น

ปัจจุบันเกิดข้อบังคับการใช้ VAR ในทุกการแข่งขัน

และเป็นที่แพร่หลายในหลายประเทศเพราะเทคโนโลยีนี้ทำให้เกมส์ฟุตบอลเป็นไปอย่างยุติธรรม ในปัจจุบันเกมส์ฟุตบอลมีอีกหลายเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเช่น การเก็บสถิติการวิ่ง สภาพร่างกายของนักเตะ เพื่อประสิทธิภาพและความได้เปรียบในการแข่งขัน  และความปลอดภัยของนักเตะเอง ในกีฬาประเภทอื่นก็เริ่มมีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้แล้วหรือที่ใช้อยู่ก่อนแล้วที่เห็นได้ชัดก็คือ กีฬา อเมริกันฟุตบอลที่ผู้ตัดสินใช้ VAR เพื่อมาช่วยในการตัดสินเกมส์

      ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยี VAR นี้มีส่วนช่วยในการพัฒนาการแข่งขันฟุตบอลให้ดียิ่งขึ้น และสามารถช่วยแบ่งเบาภาระให้ผู้ตัดสินได้เยอะ  หรือในอนาคตข้างหน้า อาจจะไม่จำเป็นต้องมีผู้ตัดสินลงไปวิ่งอยู่ในสนามก็เป็นได้